ดร.สมบูรณ์ กล่าวต่อว่า นับจากนี้ภาพรวมธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ จะเติบโตอย่างโดดเด่น โดยยังคงเดินตามแผนเพื่อเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆ ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) อย่างต่อเนื่อง เพื่อการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพของรายได้และกำไรของกลุ่มบริษัท ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีนี้มีงานที่รอผลการประมูล คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3,500 ล้านบาท หากได้งานจะช่วยสนับสนุนให้งานในมือ (Backlog) ณ สิ้นปี 2562 เพิ่มขึ้นแตะ 10,000 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2563
โดยมีงานภาครัฐที่มีความเป็นไปได้จะเห็นการประกวดราคา คือ งานรถไฟทางคู่ 1) คลอง 19-แก่งคอย มูลค่า 1.07 หมื่นล้านบาท 2) จิระ-ขอนแก่น มูลค่า 2.7 หมื่นล้านบาท 3) งานมอเตอร์เวย์พัทยา-มาบตาพุด มูลค่ารวม 1.4 หมื่นล้านบาท 4) งานรถไฟฟ้าสายสีส้มมูลค่า1.1 แสนล้านบาท โดยรวมมีมูลค่างานที่คาดเห็นการประมูลราว 1.3 แสนล้านบาท ทาง CK คาดหวังความสำเร็จจากงานประมูล 20-25% หรือประมาณ 2.6-3.5หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันจะมีการเข้าซื้อขายในตลาดของBEM บริษัทรวมระหว่าง BMCL และ BECL ซึ่ง CK คาดเกิดขึ้นในเดือน ส.ค. ในราคา 4.50 บาท
ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์ (12 มิ.ย.62) โดยเริ่มต้นคำแนะนำหุ้น S ที่ ซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายของ 12 เดือนที่ 4.20 บาท/หุ้น ด้วยวิธี SOTP ซึ่งมองว่าปีนี้เป็นปีแห่งการเริ่มต้น การเก็บเกี่ยว ทั้งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจโรงแรม โดย Backlog คอนโดมิเนียม 2 โครงการใหญ่ที่เริ่มบันทึกรายได้จะหนุนให้ผลประกอบการกลับมาโดดเด่นโดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง 2562 ขณะที่ธุรกิจโรงแรม S เตรียมจดทะเบียน SHR ในครึ่งปีหลัง 2562 เช่นกัน ซึ่งมองว่าจะเป็นปัจจัยที่หนุนฐานะการเงินและ Unlock Asset Value ได้ดี
ผล บอล บ้าน
1AOgePFaSp